
มาตรฐานสีสายไฟ 2565 รู้จักกับมาตรฐานสีสายไฟในระดับสากล
มาตรฐานสีสายไฟมีบทบาทสำคัญมากในการระบุประเภทของสายไฟต่างๆ และหน้าที่ของสายไฟในวงจรไฟฟ้า ช่วยให้ช่างไฟฟ้าและผู้ที่มีหน้าที่ติดตั้งหรือแก้ไขปัญหาระบบไฟฟ้าสามารถทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ลดความเสี่ยงของอุบัติเหตุ และรับรองการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติด้านความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน
ใบบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับสีของสายไฟในระดับสากล มาตรฐานสีสายไฟ 2565 ที่คุณต้องรู้
ความสำคัญของรหัสสีสายไฟ
รหัสสีของสายไฟเป็นวิธีการที่ชัดเจนในการระบุสายไฟต่างๆ ภายในวงจรไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก ๆ ในการทำงานกับไฟฟ้า โดยนี่คือเหตุที่ทำไม มาตรฐานสีสายไฟ 2565 ถึงสำคัญ
- ความปลอดภัย: ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อนั้นทำอย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าช็อต ไฟไหม้ และอันตรายอื่นๆ
- ประสิทธิภาพ: ประหยัดเวลาในระหว่างการติดตั้ง การบำรุงรักษา และการแก้ไขปัญหาโดยช่วยให้สามารถระบุประเภทของสายไฟได้อย่างรวดเร็ว
- ทำตามมาตรฐาน: ให้ความเข้าใจที่เป็นสากล ทุกคนที่เห็นสายไฟจะสามารถเข้าใจไปในแนวทางเดียวกันได้ตามมาตรฐานสีสายไฟ 2565
มาตรฐานสีสายไฟ 2565 มีอะไรบ้าง
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ แต่ในด้านของ มาตรฐานสีสายไฟ 2565 ก็มีมาตรฐานระดับสากลที่บังคับใช้กันทั่วไปอยู่ ดังนี้
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: มักจะระบุด้วยสีโทนอุ่น เช่น สีแดงหรือสีดำ
- สายไฟที่เป็นกลาง: โดยทั่วไปจะระบุด้วยสีโทนเย็น เช่น สีขาวหรือสีน้ำเงิน
- สายกราวด์หรือสายดิน: มักเป็นสีเขียว สีเขียวมีแถบสีเหลือง หรือเป็นทองแดงเปลือย
นอกจากนี้ในแต่ละประเทศก็อาจจะมีความแตกต่างกันออกไปอีก เนื้อหาส่วนต่อไปเราจะพาคุณไปสำรวจ มาตรฐานสีสายไฟ 2565 ในแต่ละทวีป แต่ละประเทศกัน
มาตรฐานรหัสสีสายไฟในแต่ละประเทศ
1.สหรัฐอเมริกา (National Electrical Code : NEC)
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: สีดำหรือสีแดง
- สายไฟที่เป็นกลาง: สีขาวหรือสีเทา
- สายกราวด์หรือสายดิน: สีเขียว สีเขียวมีแถบสีเหลือง หรือทองแดงเปลือย
2. สหราชอาณาจักร (BS 7671)
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: สีน้ำตาล (ก่อนหน้านี้เป็นสีแดง และพึ่งปรับเปรียบมาเป็นสีน้ำตาลเมื่อไม่นานมานี้)
- สายไฟที่เป็นกลาง: สีน้ำเงิน (ก่อนหน้านี้เป็นสีดำ)
- สายกราวด์หรือสายดิน: แถบสีเขียวและสีเหลือง
3. สหภาพยุโรป (IEC 60446/IEC 60445)
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: สีน้ำตาล
- สายไฟที่เป็นกลาง: สีน้ำเงิน
- สายกราวด์หรือสายดิน: แถบสีเขียวและสีเหลือง
4. ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (AS/NZS 3000)
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: สีแดงหรือสีน้ำตาล
- สายไฟที่เป็นกลาง: สีดำหรือสีน้ำเงิน
- สายกราวด์หรือสายดิน: แถบสีเขียวและสีเหลือง
5.แคนาดา (CSA)
- ลวดไฟฟ้า สายไฟฟ้า: สีแดง
- สายไฟที่เป็นกลาง: สีขาว
- สายกราวด์หรือสายดิน: สีเขียว
มาตรฐานสีสายไฟ 2565 แบบอื่น ๆ
ในวงจรไฟฟ้าหรือสายไฟบางประเภทก็มีการใช้มาตรฐานสีสายไฟ 2565 เพื่อให้ใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โดยหลัก ๆ แล้วก็จะมีดังนี้
- ระบบไฟฟ้าสามเฟส: แต่ละเฟสจะใช้สีที่ต่างกันเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน
- วงจรไฟฟ้ากระแสตรง: ในบางภูมิภาค อาจมีการกำหนดสีเฉพาะสำหรับสายไฟกระแสตรงขั้วบวกและขั้วลบ
- สายเคเบิลข้อมูล: สายเคเบิล เช่น CAT5/6 มีรหัสสีเพื่อระบุช่องสัญญาณและการใช้งานที่แตกต่างกัน
มาตรฐานสีสายไฟ 2565 สำหรับรถยนต์
- สายไฟแบตเตอรี่: มักเป็นสีแดง
- สายกราวด์: โดยทั่วไปจะเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล
- สวิตช์สตาร์ทรถยนต์: มักจะเป็นสีเขียว
- ไฟท้าย: โดยทั่วไปจะเป็นสีน้ำตาล
- ลำโพง: จะมีสีที่ต่างกันเพื่อระบุขั้วบวกและขั้วลบ
มาตรฐานสีสายไฟ 2565 สำหรับยานพาหนะทางทะเล
- ไฟ AC: มักจะเป็นไปตามรหัสสีของระบบไฟฟ้าแบบทั่วไป
- ไฟ DC: ใช้สีแดงสำหรับค่าบวก และสีดำสำหรับค่าลบ
- สายกราวด์: มักเป็นสีเขียวหรือเขียวมีแถบสีเหลือง
จะเห็นได้เลยว่าสายไฟในแต่ละอุตสาหกรรมหรือแต่ละการใช้งานก็มีมาตรฐานสีสายไฟ 2565 ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากเราเรียนรู้และทำความเข้าใจมาตรฐานสีสายไฟในสายงานของตัวเองรวมไปถึงสายงานอื่น ๆ ก็จะทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Tag:มาตรฐานสีสายไฟ