รู้จักกับ JSA : Job Safety Analysis สำหรับวิเคราะห์อันตรายในงาน

ในวงการอุตสาหกรรมและสถานที่ทำงานทั่วโลก ความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างปฏิเสธไม่ได้ ซึ่งวิธีการสำคัญวิธีหนึ่งที่ใช้เพื่อความปลอดภัยในที่ทำงานคือการวิเคราะห์ความปลอดภัยของงาน หรือที่เรียกว่า Job Safety Analysis (JSA) ซึ่งเป็นกระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นระบบเพื่อสวัสดิภาพด้านความปลอดภัยในการทำงาน ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจกับ JSA ว่ามันคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง

การวิเคราะห์ความปลอดภัยของงาน (Job Safety Analysis : JSA) คืออะไร?

JSA : Job Safety Analysis หรือที่เรียกว่าการวิเคราะห์อันตรายจากงาน เป็นกระบวนการที่เป็นระบบซึ่งมุ่งเน้นไปที่การระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในงานต่าง ๆ และมองหาวิธีการที่ดีที่สุดในการจัดการอันตรายเหล่านั้น เป้าหมายหลักคือการลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงาน

ความสำคัญของ JSA 

• การลดความเสี่ยง: JSA ช่วยระบุความเสี่ยงก่อนที่จะก่อให้เกิดอันตราย รับรองความปลอดภัยของพนักงานและบุคลากรภายในสถานที่ทำงาน
• ประสิทธิภาพของการทำงาน: การใช้ JSA เพื่อวิเคราะห์หาความเสี่ยงของงานนั้นจะทำให้เราเข้าใจงานมากยิ่งขึ้น แล้วก็จะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
• เป็นประโยชน์ต่อการฝึกอบรม: JSA สามารถใช้เป็นเครื่องช่วยฝึกอบรมสำหรับพนักงานใหม่ ทำให้พวกเขาเข้าใจงานและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับงานที่กำลังจะทำ

ขั้นตอนในการจัดทำ JSA

1. เลือกงานที่มีความเสี่ยง: จัดลำดับความสำคัญของงานที่มีประวัติว่าเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนหรือไม่ หรือเป็นงานที่มีความซับซ้อน หรือเป็นงานใหม่ที่พึ่งเพิ่มเข้ามาภายในระบบขององค์กร
2. แบ่งงานออกเป็นขั้นตอน: จัดทำเอกสารแต่ละขั้นตอนของงาน พร้อมทั้งอธิบายแต่ละขั้นตอนให้กระชับและครอบคลุม
3. ระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น: สำหรับแต่ละขั้นตอน ให้ระบุอันตรายที่อาจเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นทางกายภาพ (เช่น เครื่องจักร) สารเคมี (เช่น สารพิษ) ชีวภาพ (เช่น แบคทีเรีย) การยศาสตร์ (เช่น ออฟฟิศซินโดรม) หรือปัญหาทางจิต (เช่น ความเครียด)
4. กำหนดมาตรการป้องกัน: สำหรับอันตรายในแต่ละขั้นตอนของการทำงาน ให้กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันอันตรายเหล่านั้น โดยทั่วไปแล้วการมาตรการจะมีหลายประเภท ได้แก่

• การกำจัด: กำจัดอันตรายทั้งหมด
• การทดแทน: การเปลี่ยนกระบวนการ/วัสดุที่เป็นอันตรายด้วยกระบวนการ/วัสดุที่เป็นอันตรายน้อยกว่า
• การควบคุมทางวิศวกรรม: การดัดแปลงเครื่องมือหรืออุปกรณ์เพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น
• การควบคุมด้านการดูแลระบบ: การเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของพนักงาน (เช่น การฝึกอบรม การหมุนเวียนงาน)
• อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE): จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสมให้กับพนักงาน

5. ประเมินผลการทำงาน: ให้ผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้ด้านนี้ตรวจสอบและประเมินมาตรการ JSA ในที่ทำงาน
6. นำไปใช้ : เมื่อประเมินและพบว่าเหมาะสมก็นำไปใช้จริงในที่ทำงานได้เลย
7. ตรวจสอบและทำอย่างสม่ำเสมอ: ตรวจสอบ JSA เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรการยังคงมีความทันสมัยและใช้งานได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทำงานขององค์กร

เคล็ดลับสำหรับมาตรการ JSA ที่มีประสิทธิภาพ

• ให้คนที่เหมาะสมมีส่วนร่วม: ผู้ที่ปฏิบัติงานจริงสามารถให้รายละเอียดที่ถูกต้องที่สุดได้ ดังนั้นการออกแบบมาตรการ JSA ควรให้พนักงานหรือคนที่ทำงานจริง ๆ มาช่วยออกแบบด้วย 
• ใช้ภาษาที่ชัดเจน: หลีกเลี่ยงศัพท์แสง หรือคำที่เป็นทางการจนเกินไป JSA ควรเป็นที่เข้าใจสำหรับทุกคน
• Keep It Dynamic: JSA ควรเป็นมาตรการที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาตามความจำเป็น ไม่ควรยึดถืออยู่กับรูปแบบเดิม ๆ
• จัดลำดับความสำคัญ: ให้ความสำคัญกับงานที่มีความเสี่ยงสูงหรืองานที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนเป็นอันดับแรก
• รับฟังความเห็น: กระตุ้นให้พนักงานแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับมาตรการ JSA และดำเนินการตามคำแนะนำหรือข้อเรียกร้องของพนักงานที่ทำได้จริงและมีประโยชน์

JSA เป็นกระบวนการในโลกของความปลอดภัยในการทำงาน เมื่อดำเนินการอย่างถูกต้อง ไม่เพียงช่วยให้พนักงานมีสวัสดิภาพในการทำงานที่ดีเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในการทำงานที่ดีขึ้นอีกด้วย หากใครที่สนใจอบรม JSA สามารถดูรายละเอียดได้ที่คอร์สอบรมบนเว็บไซต์เรา